แลกเปลี่ยน เรียนรู้ สานสัมพันธ์ไทย-ลาว
แลกเปลี่ยน เรียนรู้ สานสัมพันธ์ไทย-ลาว
วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม 2568 นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (เลขาธิการ กปร.) ให้การต้อนรับ ท้าวทองสะหวัน พมวิหาน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และภริยา พร้อมคณะจาก กระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนลาว (สปป.ลาว) สถานเอกอัครราชทูต สปป.ลาว ประจำประเทศไทย และ กระทรวงการต่างประเทศของไทย ในการเดินทางมาเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ณ อาคารอเนกประสงค์ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายนิติปกรณ์ แสงสุวรรณ นายอำเภอดอยสะเก็ด นายดุษฎี พรพระแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และ เจ้าหน้าที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ ร่วมให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ เลขาธิการ กปร. ได้บรรยายข้อมูลภาพรวมของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จากนั้น ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ บรรยายข้อมูลของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ พร้อมแสดงวิดิทัศน์ความเป็นมาของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องใคร้ฯ ให้แก่คณะได้รับชม ต่อมา ได้นำคณะเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆ ภายในพื้นที่ศูนย์ศึกษาฯ ซึ่งได้จัดแสดงผลสำเร็จของการพัฒนาและตัวอย่างของวิธีการพัฒนาด้านต่าง ๆ ที่เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพภูมิสังคมของภาคเหนือ ในลักษณะต้นทางเป็นการฟื้นฟูสภาพป่าไม้ ต้นน้ำลำธาร ปลายทางเป็นการพัฒนาด้านการประมงตามอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ผสมผสานกับระหว่างทางที่เป็นการพัฒนาด้านการเกษตรกรรม และปศุสัตว์ ซึ่งจุดเยี่ยมชม ประกอบด้วย งานศึกษาและพัฒนาการปลูกพืช พร้อมปลูกต้นไม้บริเวณอ่างเก็บน้ำที่ 7 งานศึกษาและพัฒนาปศุสัตว์ งานศึกษาและพัฒนาที่ดิน งานศึกษาและพัฒนาการเพาะเลี้ยงกบ และงานศึกษาและพัฒนาประมง
โอกาสนี้ เลขาธิการ กปร. ได้บรรยายข้อมูลภาพรวมของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จากนั้น ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ บรรยายข้อมูลของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ พร้อมแสดงวิดิทัศน์ความเป็นมาของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องใคร้ฯ ให้แก่คณะได้รับชม ต่อมา ได้นำคณะเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆ ภายในพื้นที่ศูนย์ศึกษาฯ ซึ่งได้จัดแสดงผลสำเร็จของการพัฒนาและตัวอย่างของวิธีการพัฒนาด้านต่าง ๆ ที่เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพภูมิสังคมของภาคเหนือ ในลักษณะต้นทางเป็นการฟื้นฟูสภาพป่าไม้ ต้นน้ำลำธาร ปลายทางเป็นการพัฒนาด้านการประมงตามอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ผสมผสานกับระหว่างทางที่เป็นการพัฒนาด้านการเกษตรกรรม และปศุสัตว์ ซึ่งจุดเยี่ยมชม ประกอบด้วย งานศึกษาและพัฒนาการปลูกพืช พร้อมปลูกต้นไม้บริเวณอ่างเก็บน้ำที่ 7 งานศึกษาและพัฒนาปศุสัตว์ งานศึกษาและพัฒนาที่ดิน งานศึกษาและพัฒนาการเพาะเลี้ยงกบ และงานศึกษาและพัฒนาประมง
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมีมาอย่างต่อเนื่องยาวนานและความสัมพันธ์ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น โดยเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2535 ท้าวไกสอน พมวิหาน อดีตประธานประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้เดินทางมาเยี่ยมชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ แห่งนี้ และได้กราบบังคมทูลขอพระราชทาน
พระมหากรุณาจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อให้มีการดำเนินงานในลักษณะคล้ายคลึงกับศูนย์ศึกษาฯ ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งได้รับพระมหากรุณา โดยมีการจัดตั้งศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน-ห้วยซั้ว ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อเป็นต้นแบบการพัฒนาชนบทแก่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2537 โดยน้อมนำแนวพระราชดำริที่ประสบความสำเร็จ ไปถ่ายทอดแก่นักวิชาการของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รวมทั้ง
ขยายผลไปสู่เกษตรกรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีความสุข โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อม
ภูมิประเทศ และวิถีชีวิตของประชาชนเป็นสำคัญ
นอกจากนี้ ยังมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอื่นๆที่เกิดขึ้น ณ สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนวัฒนธรรมป้องกันความสงบ แขวงเวียงจันทน์ รวมทั้ง ยังมีโครงการฯ ที่มูลนิธิชัยพัฒนา และสำนักงาน กปร. ร่วมขับเคลื่อนการดำเนิน ได้แก่ โครงการแปลงสาธิตการเกษตรแบบผสมผสาน แขวงจำปาสัก โครงการศูนย์พัฒนากสิกรรม-ป่าไม้ แขวงสะหวันนะเขต และโครงการพัฒนากสิกรรมบนพื้นที่สูง แขวงจำปาสัก
ทั้งนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสืบสานการพัฒนาและเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและสถาบันพระมหากษัตริย์มาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เสด็จพระราชดำเนินเยือน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 21-24 เมษายน 2568 และได้เสด็จพระราชดำเนินไปยัง โครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน – ห้วยซั้ว (หลัก 22) เมื่อวันพุธที่ 23 เมษายน 2568 เพื่อทรงติดตามผลการดำเนินงานโครงการฯ
ความร่วมมือที่ผ่านมาแสดงจึงเห็นถึงไมตรีจิต และมิตรภาพ ตลอดจนความผูกพันกันระหว่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ที่มีต่อกันเสมอมา อีกทั้งเป็นผลสำเร็จเชิงประจักษ์จากความร่วมมือของ 2 ประเทศ ที่มีมายาวนานครบรอบ 75 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว
นอกจากนี้ ยังมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอื่นๆที่เกิดขึ้น ณ สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนวัฒนธรรมป้องกันความสงบ แขวงเวียงจันทน์ รวมทั้ง ยังมีโครงการฯ ที่มูลนิธิชัยพัฒนา และสำนักงาน กปร. ร่วมขับเคลื่อนการดำเนิน ได้แก่ โครงการแปลงสาธิตการเกษตรแบบผสมผสาน แขวงจำปาสัก โครงการศูนย์พัฒนากสิกรรม-ป่าไม้ แขวงสะหวันนะเขต และโครงการพัฒนากสิกรรมบนพื้นที่สูง แขวงจำปาสัก
ทั้งนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสืบสานการพัฒนาและเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและสถาบันพระมหากษัตริย์มาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เสด็จพระราชดำเนินเยือน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 21-24 เมษายน 2568 และได้เสด็จพระราชดำเนินไปยัง โครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน – ห้วยซั้ว (หลัก 22) เมื่อวันพุธที่ 23 เมษายน 2568 เพื่อทรงติดตามผลการดำเนินงานโครงการฯ
ความร่วมมือที่ผ่านมาแสดงจึงเห็นถึงไมตรีจิต และมิตรภาพ ตลอดจนความผูกพันกันระหว่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ที่มีต่อกันเสมอมา อีกทั้งเป็นผลสำเร็จเชิงประจักษ์จากความร่วมมือของ 2 ประเทศ ที่มีมายาวนานครบรอบ 75 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว