วันที่  4 สิงหาคม 2568 ที่ห้องประชุมคำชะโนดชั้น 2 อาคาร 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายราชันย์  ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี มอบหมายให้นายพิสิษฐ์ชัย อภัยปิยกุล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมรักษาความปลอดภัยอาคาร สถานที่ และพื้นที่สำคัญจังหวัดอุดรธานี โดยมีพันเอกสุดเขตต์ พลยะเรศ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 ,ว่าที่ร้อยตรีรักชัย เลิศสุบิน ปลัดจังหวัดอุดรธานี,พันเอกวุฒิชัย สุคนธวัฒน์ เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 24 ,พ.ต.อ.จามร  อันดี รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ,หน่วยงานด้านความมั่นคง หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน ผู้ใช้งานโดรนภาคเอกชน และส่วนราชการที่ใช้งานโดรนในพื้นที่  ร่วมประชุม พร้อมมีการเชื่อมโยงสัญญาการประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปยัง 20 อำเภอ

           การประชุมครั้งนี้ มีการสรุปสถานการณ์ไทย-กัมพูชาในปัจจุบัน ,พื้นที่สำคัญและอาคารสถานที่ในการเตรียมการระวังป้องกันภายในจังหวัดอุดรธานี, มาตรการและแนวทางปฏิบัติเพื่อรับมือภัยคุกคามจากโดรน , ประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง ห้ามบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ในพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2568, การรักษาความปลอดภัยอาคาร สถานที่ และพื้นที่สำคัญของจังหวัดอุดรธานี ตามหนังสือจังหวัดอุดรธานี ด่วนที่สุด ที่ อด 0018.2/5812 ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2568

           จังหวัดอุดรธานี มีโดรนที่ลงทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายในพื้นที่ 1,575 ลำ มีบุคคลต่างด้าวในจังหวัดอุดรธานีทั้งที่เข้าเมืองถูกต้องตามกฎหมาย 90 วัน  90 สัญชาติ กว่า 16,776 คน เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดอุดรธานี กว่า 200,000 คน ในขณะที่แรงงานต่างด้าวที่มีใบอนุญาตทำงาน ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 4,019 คน เป็นแรงงาน 4  สัญชาติกัมพูชา เวียดนาม ลาว เมียนมา 3,440 คน แยกเป็นแรงงานกัมพูชา 367 คน นายจ้างชาวกัมพูชา 82 ราย ,เวียดนาม 32 คน ,ลาว 1,628 คน และเมียนมา 1,413 คน จากเหตุการณ์ปะทะกันในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา สำนักงานจัดหางานจังหวัดอุดร บูรณาการหน่วยงานด้านความมั่นคงออกตรวจสอบแรงงาน พบมีแรงงานเดินทางกลับภูมิลำเนา 10 ราย มีการจับกุมแรงงานกัมพูชาที่หลบหนี้เข้าเมืองและลักลอบทำงาน 8 ราย ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน

            ในขณะที่ตำรวจตรวจค้นเข้าเมือง ได้รายงานข้อมูลชาวต่างชาติที่เดินทางมาพักอาศัยในจังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 1 มกราคม-31 กรกฎาคม 2568 มี 90 สัญชาติ รวม 16,776 คน (ช.12,194 คน /ญ. 4,582 คน) เป็นนักท่องเที่ยวที่มีวีซ่านักท่องเที่ยว 74 คน (ช.58/ญ.16) ,พำนักเป็นการชั่วคราว 10,730 คน (ช.8,835/ญ.1,895 คน ),แรงงานต่างด้าว 4 สัญชาติ เป็นชาย 1,897 คน ,หญิง 2,311 คน,  อื่นๆ ชาย 1,404 คน /หญิง 360 คน  ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาบังคับใช้กฎหมายกับผู้ครอบครองโดรน และขอให้ผู้ครอบรองโดรนดำเนินการขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องกับสำนักงาน กช.ทช.24 (อุดรธานี)  ,ประชาสัมพันธ์ห้ามบินโดรนตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 15 สิงหาคม 2568 ฝ่าฝืนต้องระวางโทษไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ ขอให้ประชาชนร่วมกันเป็นหูเป็นตา พบเห็นโดรนให้ถ่ายคลิป ถ่ายภาพ ระบุวัน เวลา สถานที่ แจ้งตำรวจ หน่วยทหารและหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่  ในการประชุมครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้สั่งการให้อำเภอจัดทำแผนการรักษาความปลอดภัยอาคาร สถานที่ และพื้นที่สำคัญของอำเภอ ,จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ (War room) และชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อเข้าถึง พื้นที่ที่ได้รับรายงานโดยเร็ว ,ขอให้อำเภอสร้างการรับรู้ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จิตอาสา ประชาชนในพื้นที่ได้ตื่นตัวร่วมเป็นกำลังสำคัญเป็นเหมือนตาสัปปะรด เฝ้าระวังสอดส่องดูแลรัศมี 3-5 กม. รอบสถานที่สำคัญทุกช่องทาง ,บูรณาการหน่วยงานด้านความมั่นคง ออกตรวจพื้นที่สำคัญ อาคารสถานที่ เตรียมการระวังป้องกันภายในจังหวัด และบูรณาการออกตรวจตราแรงงานชาวกัมพูชา และนายจ้าง ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี