กลุ่มครูสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสุดทนบุกสหกรณ์จังหวัดชัยนาททวงถามความถูกต้องยุติธรรมจากสัญญาเงินกู้ที่ผิดพลาด หักเงินเดือนจนไม่เหลือเงินค่ายังชีพแม้แต่บาทเดียว ไม่ตรงปกกับสัญญาตามเคมเปญปรับโครงสร้างหนี้ใหม่  

            กลุ่มครูสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสุดทนบุกสหกรณ์จังหวัดชัยนาททวงถามความถูกต้องยุติธรรมจากสัญญาเงินกู้ที่ผิดพลาด หักเงินเดือนจนไม่เหลือเงินค่ายังชีพแม้แต่บาทเดียว ไม่ตรงปกกับสัญญาตามเคมเปญปรับโครงสร้างหนี้ใหม่
            วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ.2568 ณ ห้องประชุม สำนักงานสหกรณ์จังหวัดชัยนาท กลุ่มครูสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดชัยนาท นำโดยนายธานินทร์ วัฒนกูล ดร.สาโรช กลิ่นรอง นายสัมฤทธิ์ มณีรอด กับ นายพนม จงอยู่วัฒนา อดีตผู้จัดการสหกรณ์อาวุโสฯ นำคณะบุกเข้าขอพบ น.ส.กัญจน์ณิชา ณ วิเชียร นักวิชาการสหกรณ์ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนสหกรณ์จังหวัดชัยนาท นายอนุพงศ์ ดั่นคุ้ม เจ้าพนักงานส่งเสริมสหกรณ์อา ให้กวุโส กับคณะเจ้าหน้าที่และกรรมการสหกรณ์จังหวัดชัยนาท เพื่อสอบถามความคืบหน้าเรื่องราวการร้องเรียนของกลุ่มครูผู้เป็นสมาชิกกู้เงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดชัยนาท ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสัญญาเงินกู้ในโครงการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ที่มีการหักเงินเดือนของกลุ่มครูผู้กู้จำนวนหลายร้อยคน จนไม่เหลือเงินเดือนให้ได้ใช้ดำรงชีพให้อยู่เป็นปกติได้ตามหนังสือร้องทุกข์ที่ได้เคยมายื่นไว้แล้วก่อนหน้านี้ กับวันนี้กลุ่มครูผู้เดือดร้อนได้เชิญสื่อมวลชนจากหลายสำนักมาร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยานด้วย ทางสหกรณ์จังหวัดจึงอำนวยความสะดวกเปิดห้องประชุม ให้ผูเกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าใช้
            บรรยากาศการประชุมเพื่อหาข้อยุติเป็นไปอย่างดุเดือด หน้าดำคร่ำเครียด ต่างฝ่ายต่างหาเหตุผลต่างๆนานามาเพื่อหักล้างข้อโต้แย้งกันอย่างถึงพริกถึงขิง โดยไม่มีวี่แววว่าจะหาข้อยุติร่วมกันได้ ซึ่งใช้เวลาประชุมผ่านไปเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมงแล้ว  นายพนม จงอยู่วัฒนา อดีตผู้จัดการสหกรณ์ ที่กลุ่มครูสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูผู้เดือดร้อนนับถือและได้เชิญมาด้วย ได้กล่าวในที่ประชุมบอกกล่าวถึงประสบการณ์การทำงานต่างๆที่เป็นประโยชน์และแนวทางการทำงานในหลายๆมิติในฐานะผู้อาวุโสคนหนึ่งที่ทำงานกับสหกรณ์มานานด้วยความห่วงใย ต่อผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด จนได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยต่างฝ่ายต่างยินดีเจรจาประชุมหาข้อยุติกันใหม่แบบนุ่มนวล อลุ่มอหล่วย รับฟังเหตุผลของกันและกันมากขึ้น ในขณะการประชุมในห้วงสุดท้าย อ.ชาติ มหาชน หรือนายสุชาติ ดีจันทร์ ตัวแทนคณะสื่อมวลชนจากสำนักข่าวศูนย์ข่าวทีวีประชาชนออนไลน์ psctv news กับเป็นตัวแทนผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและรองหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชนฝ่ายกิจกรรมพิเศษ ได้กล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดว่า ตนและสื่อมวลชนทุกสำนักที่ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมประชุมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ ได้รับทราบและฟังปัญหาและข้อโต้แย้งของทั้งสองฝ่ายแล้ว ต่างก็มีเหตุผลเป็นของตัวเองทั้งคู่ ขอให้คู่ขัดแย้งทั้งคู่หาทางออกโดยสันติวิธี มีเหตุผล ให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขและอยู่ในกรอบของกฎหมาย ใช้ทั้งหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ควบคู่กัน ไม่หย่อนและตึงจนเกินไป รวมถึงทั้งสองฝ่ายก็เป็นครูบาอาจารย์ที่มีคุณวุฒิและวุฒิภาวะที่เป็นต้นแบบและตัวอย่างของสังคม จึงไม่อยากให้มีภาพและความขัดแย้งๆต่างๆที่เป็นผลทางด้านลบออกไปสู่สังคม
                 
              เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมร่วม เวลา 17.20 น.ได้ข้อยุติว่า ทางสหกรณ์จังหวัดชัยนาท โดย นางสาว กัญจน์ณิชา ณ วิเชียร นักวิชาการสหกรณ์ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนสหกรณ์จังหวัดชัยนาท รับข้อเสนอนำข้อเรียกร้องของทางกลุ่มครูผู้เดือดร้อนทั้งหมดที่เป็นสมาชิกของสมาชิกสหกรณ์ฯไปร่วมประชุมแก้ไขเพื่อหาทางออกในปัญหาดังกล่าวร่วมกับกรรมการของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดชัยนาท หาทางแก้ไขให้เป็นไปตามสัญญากู้ที่ให้ครูกูเงินตามโครงการปรับสภาพหนี้ใหม่ มีเงินเดือนคงเหลือเพื่อใช้ในการยังชีพ 30 % ของเงินเดือนหลังจากได้หักชำระหนี้เงินกู้ของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดชัยนาทแล้วทุกบัญชีจนสิ้นสุดสัญญาการการชำระหนี้เงินกู้ของบรรดากลุ่มครูผู้เดือดร้อนทุกคน กับไม่ให้มีการทวงหนี้แก้ผู้ค้ำประกันตามสัญญาเดิมให้ก่อความอับอาย สร้างความรำคาญ อีกตามสัญญาใหม่ที่ไม่มีผู้ค้ำประกัน และให้แสดงสัญญากู้และรายละเอียดจำนวนเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยและอัตราและระยะเวลาการชำระแก่สมาชิกครูผู้กู้ให้ได้รับทราบทุกคนเพื่อให้เกิดความโปร่งใส บริสุทธิ์ยุติธรรม ขอให้กลุ่มครูที่มาเรียกร้องร้องทุกข์ในวันนี้ อดทนรออีกสักระยะหนึ่งสั้นๆ เมื่อการหารือแก้ไขของสหกรณ์แก้ไข้ปัญหาได้แล้วจะแจ้งให้ทราบโดยทันที
///////////////////////////////////////////////////////
ดร.รักชาติ สุขเปรม ผอ.ข่าวภาคกลาง ศูนย์ข่าวทีวีประชาชนออนไลน์ psctv news  ภาพ / ข่าว



หวยเด็ดงวดนี้
เรื่องอื่นๆในหมวด