วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.30 น. พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี รองประธานกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมด้วย นายศุภรัชต์ อินทราวุธ รองเลขาธิการ กปร. และคณะอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เดินทางไปยังห้องประชุมนารายณ์บรรทมสินธุ์ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อประชุมติดตามขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมทั้งรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งนี้มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่อยู่ระหว่างการติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินงาน จำนวน 29 โครงการ จาก 112 โครงการทั่วประเทศ แบ่งเป็น โครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ 25 โครงการ และอยู่ระหว่างดำเนินการ 4 โครงการ สำหรับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันมี จำนวน 30 โครงการ แบ่งเป็น ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 24 โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 2 โครงการ และจะดำเนินการในปี 2569 จำนวน 4 โครงการ ในการนี้ องคมนตรีได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่

             ในช่วงบ่าย องคมนตรีและคณะ เดินทางไปยังโครงการเขื่อนลำนางรองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลโนนดินแดง อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อรับฟังรายงานผลการดำเนินงานโครงการฯ โอกาสนี้ องคมนตรีได้ให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาขยายผลในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างประโยชน์และยกระดับคุณภาพชีวิตแก่ราษฎรในพื้นที่ จากนั้น คณะตรวจเยี่ยมพื้นที่โครงการ พร้อมพบปะราษฎรผู้ได้รับประโยชน์ และปล่อยพันธุ์ปลาเพื่อเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ สร้างสมดุลนิเวศแก่พื้นที่ และเป็นแหล่งอาหารโปรตีนสูงแก่ราษฎร

            โครงการเขื่อนลำนางรองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นหนึ่งโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในบริเวณพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้มีพระราชดำริเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2521 ให้กรมชลประทานดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ เพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัยในหน้าฝน และกักเก็บน้ำเพื่อใช้อุปโภคบริโภคและทำการเกษตรในช่วงหน้าแล้งให้แก่ราษฎรในพื้นที่ โดยกรมชลประทาน ได้ก่อสร้างเขื่อนลำนางรองฯ แล้วเสร็จในปี 2525 มีลักษณะเป็นเขื่อนดิน สูง 23 เมตร ยาว 1,500 เมตร สันเขื่อนกว้าง 8 เมตร พื้นที่เก็บกักน้ำ 15,300 ไร่ มีความยาวไปตามลำน้ำเหนืออ่างเก็บน้ำประมาณ 15 กิโลเมตร ความจุของอ่างประมาณ 121 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถส่งน้ำให้พื้นที่เพาะปลูกในช่วงหน้าฝน 139,180 ไร่ และหน้าแล้ง 727 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอของจังหวับุรีรัมย์ ได้แก่ อำเภอโนนดินแดง อำเภอละหานทราย อำเภอปะคำ อำเภอนางรอง และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งน้ำสำหรับผลิตน้ำอุปโภคบริโภคของการประปาส่วนภูมิภาคอำเภอโนนดินแดง เป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับระบบประปาหมู่บ้านในพื้นที่บริเวณดังกล่าว รวมทั้งส่งน้ำให้กับอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก และอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ ในช่วงขาดแคลนแหล่งผลิตน้ำอุปโภคบริโภคในอำเภอเมืองบุรีรัมย์ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อให้ราษฎรได้พักผ่อนหย่อนใจ โดยอ่างเก็บน้ำลำนางรอง ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ทะเลสาบแห่งอีสานใต้”