นบ.ยส.24 ซีลเข้มชายแดนในรอบ 2 เดือน ( ต.ค.-พ.ย.68 ) ป้องกันการทะลักยาเสพติดรวมมูลค่า แปดร้อยกว่าล้านบาท ในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
พลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24) บูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือในรอบ 2 เดือน ( ต.ค.-พ.ย.68) ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด, หัวหน้าหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 7 จังหวัด 25 อำเภอชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สกัดกั้นป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องด้วยสถานการณ์ปัญหาด้านยาเสพติดที่มีความรุนแรงในปัจจุบัน ทางรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี จึงได้กำหนดนโยบายที่มุ่งเน้นในการแก้ไขปัญหายาเสพติดขึ้น โดยมีการกำหนดพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามคำสั่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และได้จัดตั้ง หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ นบ.ยส.24 ขึ้น โดยมอบหมายให้ “กองทัพภาคที่ 2” เป็นผู้รับผิดชอบ พื้นที่ 7 จังหวัด 25 อำเภอชายแดน
สำหรับ นบ.ยส.24 มีหน้าที่ในการ วางแผน อำนวยการ ประสานงาน และผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนในพื้นที่รับผิดชอบ เข้าดำเนินการ และปฏิบัติการ สกัดกั้น ยับยั้ง และจับกุม ไม่ให้มีการลักลอบนำยาเสพติด เข้ามาในประเทศ และสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงสารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ผ่านไปยัง พื้นที่แหล่งผลิตในสามเหลี่ยมทองคำ, ปราบปราม ทำลายโครงสร้างเครือข่ายการค้ายาเสพติด และวงจรทางการเงินของกลุ่มนักค้ายาเสพติดตามแนวชายแดน, ปราบปรามการลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านระบบโลจิสติกส์ตามแนวชายแดน,เสริมสร้างความเข้มแข็งของ หมู่บ้าน/ชุมชนตามแนวชายแดน เพื่อต่อต้าน ยาเสพติด เฝ้าระวัง และช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการแจ้งข่าว ในพื้นที่รับผิดชอบ ให้มากที่สุดและยั่งยืน,ประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านให้ช่วยดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดและหลบหนีหมายจับเข้าไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศ และดำเนินการอื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อไม่ให้ยาเสพติดถูกลักลอบลำเลียงเข้ามาในประเทศ
โดยมีแนวทางการปฏิบัติงานตาม 6 มาตรการหลัก ที่ ป.ป.ส. กำหนด ได้แก่ มาตรการสกัดกั้น มอบให้ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และกองกำลังสุรนารี เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก, มาตรการปราบปราม มอบให้ ตำรวจภูธรภาค 3, ภาค 4 และกองบังคับการ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก,มาตรการป้องกัน มอบให้ จังหวัด ในบทบาทของ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก, มาตรการบำบัด มอบให้ สาธารณสุขจังหวัด เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก, มาตรการบูรณาการ ทุกส่วนราชการ มีส่วนร่วมกัน ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด, มาตรการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ช่องทาง ของคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน ระหว่างจังหวัดกับแขวง (GBC), ชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนไทย - ลาว ของกองกำลังป้องกันชายแดน และ หน่วยประสานงานประจำพื้นที่ชายแดน ของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2
โดยในห้วง 2 เดือน ที่ผ่านมา สามารถตรวจยึด ผู้ต้องหาได้ 224 ราย ของกลาง ยาบ้า 23,930,404 เม็ด, ไอซ์ 1,216 กิโลกรัม, เฮโรอีน 22 กิโลกรัม และยาเสพติดชนิดอื่นๆ อีกหลายรายการ รวมเป็นมูลค่าของกลาง 875,715,401 บาท ในวันนี้ ได้กำหนดจัดการประชุมแถลงคำสั่ง และมอบแนวทางการปฏิบัติงาน ประจำปีงบประมาณ 2569 ขึ้น เพื่อให้ทุกหน่วย ทุกส่วนราชการ ได้รับทราบ บทบาทอำนาจหน้าที่ และแนวทางการปฏิบัติภารกิจ บูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนต่อไป











