น้องชาย "น้องแพน" ชี้ต้นเหตุดราม่าแบ่งมรดก สืบเนื่องจากญาติๆ อยากให้การแบ่งเงินมรดกเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่แท้จริงของน้องแพน   

               น้องชาย "น้องแพน" ชี้ต้นเหตุดราม่าแบ่งมรดก สืบเนื่องจากญาติๆ อยากให้การแบ่งเงินมรดกเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่แท้จริงของน้องแพน 

            วันที่ 15 พฤษภาคม นายวิชิต  วงค์กระโซ่ น้องชายของนางสาวจิดาภา  วงค์กระโซ่ หรือน้องแพน เปิดเผยว่า กรณีมีเหตุดราม่าจากการแบ่งทรัพย์มรดกของน้องแพน สืบเนื่องจากเดิมน้องแพนมีเงินฝากอยู่ในบัญชีธนาคารกรุงไทยรวม 3 บัญชี เป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ สาขาบ้านค่าย 2 บัญชี และบัญชีเงินฝากประจำสาขาบิ๊กซีระยอง 1 บัญชี โดยตั้งแต่เริ่มแรกน้องแพนมีเงินฝากอยู่ในบัญชีสาขาบ้านค่าย อยู่ประมาณ 7.9 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 ได้มีการทำพินัยกรรมระบุโดยมีข้อความว่า เงินส่วนของข้าพเจ้าทั้งหมดที่มีอยู่ในบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านค่าย มอบหมายให้นายดิเรก  วิเชียรเจริญ ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 และนางสาวสมจิตร  ทรัพย์ประเสริฐ เป็นผู้มีอำนาจจัดการและดูแลเงินทั้งหมด เพื่อเป็นค่าจัดงานศพทั้งหมดจนกว่าจะแล้วเสร็จ เงินที่เหลือจากงานทำบุญ 100 วัน ให้ผู้ใหญ่เป็นผู้จัดการแบ่งปันส่วนให้ญาติพี่น้อง จำนวน 3 คน ดังนี้ คุณยายแจ๋ว  ขวัญม่วง  น้าสาวสมจิตร  ทรัพย์ประเสริฐ เด็กหญิงกนกกาญจน์  วงค์กระโซ่ วันนี้ให้มีผลตั้งแต่นางสาวจิดาภา  วงศ์กระโซ่ เสียชีวิตและทำบุญ 100 วัน แล้วเสร็จ 

หลังจากที่ทำพินัยกรรมฉบับดังกล่าว ในวันที่ 30 กันยายน 2567 น้องแพนได้ถอนเงินจำนวน 4 ล้านบาท จากบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านค่าย ที่ได้เคยทำพินัยกรรมให้ยายแจ๋ว น้าสมจิตร และหลานสาว เด็กหญิงกนกกาญจน์ แยกมาฝากไว้กับธนาคารกรุงไทยเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนสาขาเป็นสาขาบิ๊กซีระยอง 

           ตรงจุดที่น้องแพนเปลี่ยนสาขาของธนาคารทั้งที่มีบัญชีอยู่กับสาขาเดิมถึง 2 บัญชีอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเปิดบัญชีใหม่ในสาขาเดิมก็ยิ่งจะสะดวกกว่าแต่ไม่ทำกลับแยกเงินไปฝากที่สาขาอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ในพินัยกรรม ตรงจุดนี้อยากให้ทุกคนคิดแบบเป็นธรรมไม่เลือกข้างไม่ดราม่าว่า เป็นการแสดงเจตนาของน้องแพนที่ต้องการให้ แบ่งเงินในส่วนที่นอกเหนือจากพินัยกรรมให้เป็นมรดกที่ทายาทโดยชอบธรรมทุกคนได้รับและนำไปแบ่งกัน หรือไม่ ซึ่งการกระทำของน้องแพนดังกล่าวน่าจะเป็นการแสดงเจตนาให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามีความประสงค์ที่จะให้ทั้งผู้ที่มีชื่อในพินัยกรรมแม้ไม่ใช่ทายาทและทายาททุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับมรดกในเงินทั้งหมดของน้องแพน จึงได้จัดสรรปันส่วนเงินทั้งหมดออกเป็น 2 ส่วน เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าเงินเงินส่วนที่ 1 ในบัญชีสาขาบ้านค่ายยกให้ผู้รับพินัยกรรม และเงินส่วนที่ 2 ในสาขาบิ๊กซีระยองยกให้ทายาท เพราะมิฉะนั้นแล้วน้องแพนก็ไม่มีเหตุผลความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องแยกถอนเงินออกมาฝากที่สาขาอื่น 

             นอกจากนี้ นายวิชิต ยังได้นำหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างน้องแพนกับพ่อมาให้ผู้ส่งข่าวดูด้วยว่าน้องแพนกับพ่อและญาติพี่น้องทุกคนมีความรักใคร่ผูกพันกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขและดูแลกันเหมือนกับครอบครัวทั่วไป ไม่ได้มีการทอดทิ้งไม่ดูแลกันอย่างที่เป็นข่าว ดังปรากฏตามโพสต์ที่น้องแพนโพสต์ใน facebook โดยใช้ชื่อว่า "แพน นะจะ" ว่า "ฝนตกพ่อได้เขียดมาเยอะ เย้นนร้พ่อจะรังสรร เมนูอะไร รอชมกัน ไช่เยอะมากแพนชอบ " , "วันนี้กินดึกหน่อยเบาหวานขึ้นเวียนหัวพึ่งลุกไม่ ได้ อยากกินเผ็ดๆเลยให้พ่อต่าถั่วให้..." , "มีพ่อ มียาย แค่คนเดียว.จะซื้อของดีๆมาให้ ท่านกินบ้างจะเป็นอะไรไป" "กว่าจะได้นอน. พ่อได้หน่อไม้มาเลยเตรียมห ห่อหมกหน่อไม้ไว้ไปขายระหว่างเดินคลีนิค ฟอกไต" และ "โครตภูมิใจตัวเองเลย ตอนนี้ร่างกายแย่ลงมาก แต่ก็ยังหาเงินมาเลี้ยงญาติพี่น้อง พ่อ ยาย และ หลานได้" เป็นต้น ซึ่งถ้าคนทอดทิ้งกันไม่ดูแลกันโกรธและเกลียดกัน น้องแพนคงจะไม่มีข้อความที่โพสต์ในลักษณะเช่นนี้

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​092-5259777​